Micronutrient Profile Test
การตรวจระดับวิตามิน สำคัญอย่างไร?
การตรวจวัดระดับวิตามินในร่างกาย นอกจากจะทำให้ทราบว่าควรได้รับวิตามินชนิดใดเพิ่มเติมแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเลือกรับประทานวิตามินบางชนิดมากเกินไป จนอาจก่อให้เกิดผลเสียด้วย
ประเภทของวิตามินวิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี7 บี9 บี12 และวิตามินซี กลุ่มนี้จะอยู่ในร่างกาย
ประมาณ 2-4 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกขับออกทางปัสสาวะ โอกาสที่จะสะสมในร่างกายจึงมีน้อย
ไม่ค่อยก่อให้เกิดผลข้างเคียง
วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค วิตามินชนิดนี้จะละลายในไขมัน หรือน้ำมันเพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ หากได้รับมากเกินไปจะถูกสะสมไว้ในร่างกาย ซึ่งหากมีการสะสมมากเกินไปอาจมีผลเสียกับร่างกายได้
Micronutrient Profile Test ตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ 16 รายการ
มีรายการตรวจดังนี้
ตรวจระดับวิตามินเอ (Retinol)
ตรวจระดับวิตามินอี (gamma-Tocopherol)
ตรวจระดับวิตามินอี (alpha-Tocopherol)
ตรวจระดับวิตามินซี (Ascorbic acid)
ตรวจระดับโคเอนไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10)
ตรวจระดับไลโคปีน (Lycopene)
ตรวจระดับอัลฟา แคโรทีน (alpha-Carotene)
ตรวจระดับเบต้า แคโรทีน (beta-Carotene)
ตรวจระดับโครเมียม (Chromium: Cr)
ตรวจระดับทองแดง (Copper: Cu)
ตรวจระดับซีลีเนียม (Selenium: Se)
ตรวจระดับสังกะสี (Zinc: Zn)
ตรวจระดับแมกนีเซียม (Magnesium: Mg)
ตรวจระดับวิตามินบี 12 (Vitamin B12)
ตรวจระดับโฟเลต (Folate)
ตรวจระดับเฟอร์ริติน (Ferritin)
- ค่าตรวจร่างกายโดยแพทย์
- ค่าตรวจวัดสัญญาณชีพ
ใครที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน? กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน ได้แก่
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
- ผู้ที่งดรับประทานเนื้อสัตว์
- ผู้ที่แพ้อาหารบางประเภท เช่น นมวัว
- ผู้ที่ผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
- ผู้รับประทานยาที่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบางอย่าง
- ผู้ที่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจำนวนมากเป็นประจำ
ซึ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว
- การตรวจระดับวิตามินเป็นการตรวจที่ทำให้รู้สภาวะขาดหรือเกินของวิตามินในร่างกาย
เพื่อให้เลือกรับประทานเสริมได้อย่างเหมาะสม